- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 27-11-2014
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 15-12-2015
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 20
- เครดิต
- 178
- สำคัญ
- 0
- โพสต์
- 12
|
น้ำหอมแท้ทำมาจากอะไร ?
นํ้าหอมแท้เป็นผลของส่วนผสมหลัก 2 อย่าง นั่นก็คือ นํ้ามันหอม (Fragrant Oils) ที่ถูกทำให้เจือจางลงด้วยแอลกอฮอล์ (Alcohol) ระดับความเข้มข้นของความหอมที่ถูกทำให้ลดลงลงด้วยแอลกอฮอล์นั้น จะมีระดับความเข้มข้นที่ต่างกันไป
เราจึงแบ่งนํ้าหอมออกเป็น 3 ชนิดหลักๆด้วยกัน ตามระดับความเข้มข้นของกลิ่นหอมได้ทั้งนี้
Eau de Parfum คือนํ้าหอม ที่มีส่วนประกอบของนํ้ามันหอม ในสัดส่วนที่ 15-18 %
Eau de Toilette คือนํ้าหอม ที่มีองค์ประกอบของนํ้ามันหอม ในสัดส่วนที่ 4-8 %
Eau de Cologne คือนํ้าหอม ที่มีองค์ประกอบของนํ้ามันหอม ในสัดส่วนที่ 3-5 %
นํ้าหอมแท้ที่วางขายตามท้องตลาดส่วนใหญ่นั้น จะเป็น Eau de Parfum และ Eau de Toilette แต่ที่นิยมใช้กันนั้นจะเป็น Eau de Toilette เสียมากกว่า ซึ่งความหอมระดับนี้ จะมาเป็นส่วนประกอบในสินค้าอื่น ๆ นอกจาก นํ้าหอมแท้ด้วย เช่น โลชั่นทาผิว, สบู่, โฟมอาบนํ้า, ครีมนวด และอีกมากมายที่ฝรั่งเศลและไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตน้ำหอม เชื่อมั๊ยว่า กว่าจะได้น้ำหอมแต่ละหยด ใช้ดอกไม้เยอะมาก ต้องผ่านกระบวนการมากมายกว่าจะมีน้ำหอมแท้มาให้เราใช้ ราคาหัวน้ำหอมหรือน้ำหอมแท้จึงแพง แต่ก่อนจะซื้อใช้...ต้องระวังน้ำหอมแท้ไม่ทีความถูกค่ะ ดูดีๆจะได้ไม่เจอแต่แอลกอฮอล์ผสมกลิ่นอย่างเดียว นอกจากแอลกอฮอลล์แล้ว.. ต้องใส่"กลิ่น"หอมลงไปด้วย ซึ่งมาจากหัวเชื้อ ซึ่งได้มาด้วยวิธีต่างๆอาทิเช่น
1. การกลั่น (Distillation) โดยใช้ส่วนต่างๆ ของพืชที่มีกลิ่นหอม ต้มกับน้ำแล้วกลั่น จะได้น้ำมันหอมและน้ำ ตั้งทิ้งไว้ แล้วแยกเอาน้ำมันหอมซึ่งอยู่ส่วนบนออกไป 2. การคั้น (Expression) วิธีนี้เหมาะกับสิ่งหอมที่มีอยู่ในเปลือกของผลไม้ตระกูลส้ม (citrus) เช่น ส้ม มะนาว เปลือกอบเชย 3. การสกัด (Extraction) ส่วนใหญ่ใช้กับดอกไม้ ดอกกล้วยไม้ ซึ่งมีกลิ่นหอม จะประกอบด้วยสารหอมที่สลายตัวง่าย การสกัดหัวน้ำหอมแท้จาก ดอกไม้สิ้นเปลืองเวลามาก เงินลงทุนการผลิตจึงสูง
4. การสังเคราะห์เป็นสารผสมสำเร็จรูปมีกลิ่น(aromatic compounds) โดยนำสารหอมเหล่านี้มาปรุงแต่งให้ได้หัวน้ำหอมแท้ชนิดต่างๆ เนื่องจากหัวน้ำหอมจากธรรมชาติเป็นสิ่งที่หายาก มีปริมาณน้อยและราคาสูง
หัวเชื้อนั้น อาจจะเป็นกลิ่นเดี่ยว เช่นดอกลั่นทม, ดอกกุหลาบ หรือดอกกล้วยไม้ก็ได้
หรือมีหลายๆกลิ่นผสมผสานกัน เช่นมีกลิ่นอบเชย กลิ่นเปลือกส้ม กลิ่นมะแขว่นฯลฯ ทั้งนี้ ผู้มีอาชีพผสมน้ำหอม จะเป็นผู้ทดลองผสมให้มีกลิ่นเฉพาะเจาะจง ใครได้กลิ่นแผ่วๆก็จะจำได้ว่าเป็นน้ำหอมแท้ยี่ห้อใด
เช่นโบราณหน่อยก็ แชลเน่ล นัมเบอร์ 5 , ซัวเดอร์ปารีซ สมัยใหม่หน่อยก็ ซัน ของ จิล ซานเดอร์, ดราคเค่อร์ นัวร์ , เคนโซ่ ฯลฯ แต่เทคนิคที่ขาดไม่ได้คือ ชะมดเช็ด หรือ Musk เพราะมันคือตัวช่วยให้กลิ่นน้ำหอมอยู่คงทน ทั้งวัน
แต่ต้องควบคุมใส่เพียงน้อยๆ เพราะตัวของมันเองมีกลิ่นอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้กลบกลิ่นหอมที่ต้องการให้เป็นตัวชูโรง
เกร็ดที่ควรรู้ในการปรุงน้ำหอม สิ่งหอมที่ได้จากสัตว์ เช่น Ambergris ซึ่งเป็นสิ่งหอมที่ได้จากเชื้ออสุจิของปลาวาฬMusk, Ciret หรือ Zebeth คือชะมดเช็ด เป็นสิ่งขับถ่ายจากกระเปาะของต่อมใกล้อวัยวะสืบพันธุ์ของตัวชะมดทั้งตัว ผู้และตัวเมีย ที่เช็ดไว้ตามต้นไม้เพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม กล่าวสรุปว่าน้ำหอมแท้ คือ สารละลายหอมระเหยทำจากน้ำมันกับแอลกอฮอล์ มีกลิ่นที่สกัดมาจากดอกไม้ในธรรมชาติหรือกลิ่นที่สังเคราะห์ขึ้นมาผสมอยู่ ใช้ทาหรือพ่นตามเสื้อผ้าหรือร่างกาย น้ำหอมจะระเหยออกมาพร้อมกับส่งกลิ่นหอมชวนดมออกมาด้วย มีหลายกลิ่น บางกลิ่นเกิดจากการนำกลิ่นดอกไม้หลายชนิดมาผสมกัน มีการผลิตบรรจุขวดขายหลายยี่ห้อ น้ำหอมแท้
|
|