- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 3-7-2015
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 9-7-2015
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 10
- เครดิต
- 9
- สำคัญ
- 0
- โพสต์
- 1
|
เรารู้ไม่ก็เปล่าว่าฟิล์มรถยนต์ มีความจำเป็นกับรถยนต์อย่างยิ่งที่จะต้องมีกลยุทธ์รักษาคลื่นความร้อน ด้วย
กันให้ในรถยนต์มีความเย็นสุขสบาย ในขณะขับขี่รถยนต์
จากที่เราใช้รถยนต์อยู่ทุกวันแสงแดดในตอนกลางวัน หรือ แม้ในยามค่ำคืนหากขับรถยนต์
โดยไม่เปิดกระจก ก็ไม่เป็นได้จะขับได้นาน เพราะความ อบอ้าวในรถอันเกิด
จากแสงแดด กับอากาศภายใน ดังนั้น รถยนต์จำเป็นจะต้องมีฟิล์มกรองแสง เหรอ ฟิล์มลดความร้อน พร้อมทั้งเครื่องปรับอากาศ ใช้งานกับรถ
ในส่วนของฟิล์มกรองแสง หรือว่าฟิล์มลดความร้อน นั้น มีความเหมือนด้วยกันมีความแตกต่างกันอยู่ในตัวเองในสมัยเก่าผู้คนมักจะเรียก วัสดุ
สีดำๆ ที่เป็นพลาสติก มาติดกระจกรถ ว่าเป็นฟิล์มกรองแสง ต่อมาก็จะมีการเรียกฟิล์มลดความร้อนบ้าง ซึ่งในอย่างหลังนั้น ก็คือฟิล์มกรองแสง ที่มี
คุณสมบัติ ในการลดคลื่นความร้อนได้มากกว่า ฟิล์มกรองแสงแบบแต่เดิมนั่นเอง ทั้งนี้ จากการที่ได้วิวัฒนาการผลิต ด้วยเทคโนโลยี สมัยใหม่
ฟิล์มกรองแสงที่จำหน่ายอยู่ในตลาดมีมากมาย ฟิล์มรถยนต์
หลายหมู่ส่วน
ใหญ่เป็นฟิล์มรถยนต์ย้อมสีมีคุณภาพต่ำ กันความร้อนน้อย และไม่มีเคลือบสารป้องกันรังสีอุลต้าไวโอ
เลท แต่ปัจจุบันนี้ ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดได้กำเนิดฟิล์มกรองแสงยุคใหม่ ซึ่งเป็นฟิล์มรถยนต์แห่งอนาคต เรียกกว่า "สปัทเตอร์ฟิล์ม" (Sputter-Coated
Metallized films) ซึ่งทำเป็นนำเอา
โลหะพรรค์ต่าง ๆ
มาเคลือบเป็นเนื้อเดียวกับฟิล์มรถยนต์ ทำให้ฟิล์มรถยนต์มีความคงทนพร้อมด้วยกันความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม
ในปัจจุบันฟิล์มรถยนต์หลายยี่ห้อ ป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเลตหรือไม่ก็ UV จากแสงอาทิตย์ได้
เกือบ 100% ซึ่งมีคุณสมบัติปกป้องสิ่งของภายในรถของท่านไม่ให้ซีดจางใช่ไหมเสื่อมสภาพ
เร็วกว่ากำหนด พร้อมทั้งลดอันตรายจากการเกิดมะเร็งผิวหนังด้วยกันฝ้าบนใบหน้าฟิล์มกรองแสงในยุค
ปัจจุบันเคลือบด้วยสารเคลือบแข็งป้องกันรอยขูดขีด ทำให้มีความคงทนให้ความปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูงกว่าฟิล์มรถยนต์ย้อมสีที่มีคุณภาพต่ำ
เราเก่งแบ่งฟิล์มกรองแสงได้ 2 ประเภท คือ
1. ฟิล์มย้อมสี เป็นฟิล์มรถยนต์ที่มีคุณสมบัติในการลดแสงสว่าง ที่ผ่านเข้ามาทางกระจกเท่านั้น
2. ฟิล์มกรองแสงลดความร้อน ไม่ก็ ฟิล์มเคลือบโลหะ เป็นฟิล์มกรองแสงที่มีคุณสมบัติใน
การลดความร้อนที่ผ่านเข้ามาทางกระจกได้ดีกว่าแบบแรก
ฟิล์มกรองแสงมี 2 คุณสมบัติหลัก คือ
1. ความเข้ม หรือว่าความทึบแสง ซึ่งมีผลต่อการกรองแสง
2. การกรองรังสีความร้อน
ข้อควรปฏิบัติในการดูแลรักษาฟิล์มกรองแสง
1. เตือนเลื่อนกระจกขึ้น - ลง หรือว่า เช็ด ถูฟิล์มรถยนต์ ภายใน 7 วัน หลังจากติดตั้ง เนื่องจาก
ฟิล์มรถยนต์ยังมีความชื้น
ซึ่งจะระเหยหมดไปเอง
2. หากมีโจทย์อื่นใด เช่น มีฟองอากาศ หรือไม่ก็ ฟิล์มรถยนต์อ้า ฯลฯ ให้รีบติดต่อศูนย์บริการภายในระยะเวลารับประกัน
3. ในการทำความสะอาดฟิล์มรถยนต์ ควรใช้ผ้าสะอาด ผ้านุ่มไม่ใช่หรือฟองน้ำ ร่วมกับน้ำยาทำ
ความสะอาดฟิล์มรถยนต์ เพื่อกำจัดคราบมัน
4. กีดกันใช้น้ำยาเช็ดกระจกหรือไม่สารเคมีที่มีส่วนประกอบของแอมโมเนีย (NH4) เพราะอาจทำให้
ชั้นกันรอยของฟิล์มรถยนต์เสียหายได้
วิธีการดูแลฟิล์มกรองแสงหลังติดตั้ง
โดยทั่วไปทางการติดตั้งฟิล์มกรองแสงจะต้องใช้น้ำผสมกับแชมพูแบบ
อ่อนๆ ฉีดลงไปบนด้านแผ่นกาวของฟิล์มรถยนต์และกระจกที่จะติดตั้งเพื่อช่วยให้ขยับฟิล์มรถยนต์ให้เข้า
ที่แล้วจึงรีดน้ำพร้อมทั้งอากาศออกด้วยเครื่อง
มือพรรค์ต่างๆ
ดังนั้นภายหลังจะพบว่าจะมีคราบน้ำขัง, กระจกมัว หรือเป็นฝ้าที่กระจก ก่อนที่อาการเหล่านี้
จะหายไปเอง ภายในเวลา 1-4 สัปดาห์. ห้ามเช็ดล้างด้วยน้ำยาล้างกระจกที่มีส่วนผสมของสารแอมโมเนียเช็ดทำความถูกกรรมวิธี เพราะในการดูแลเอาใจใส่ฟิล์มรถยนต์ที่ติดตั้งมาใหม่อย่างถูกแนวทางนั้น จะทำให้ฟิล์มรถยนต์ที่เราติดตั้งมานั้นอยู่คู่กับรถไปได้ทนทานนาน 7-10 ปีทีเดียว |
|