Omega3 น้ำมันปลากับการบำรุงสมอง

buffetcolor99

น้ำมันปลากับโรคหัวใจและหลอดเลือด ชาวเอสกิโมที่อาศัยอยู่ในแถบหมู่เกาะกรีนแลนด์
มีอุบัติการณ์ของการเกิดโรคหัวใจและข้ออักเสบต่ำ
ทั้งๆ ที่กลุ่มคนเหล้านี้มีการบริโภคไขมันปลาในปริมาณสูง



ภายหลังมมีการค้นพบว่าไขมันปลาที่ชาวเอสกิโมบริโภคอยู่นั้นประกอบไปด้วย iCute Salmon Placenta
โอเมก้า 3 ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไขมันในเลือดสูง และโรคความดันโลหิต

[pre]น้ำมันปลากับการบำรุงสมอง เนื่องจากดีเอชเอ (DHA) เป็นส่วนประกอบหนึ่งของเนื้อเยื่อสมอง น้ำมันปลาจึงมีผลต่อหน้าที่การทำงานของสมองหรือแม้แต่การสร้างสารสื่อนำประสาทในสมอง iCute Salmon Placenta[/pre]

น้ำมันปลากับโรครูมาตอยด์ (โรคข้ออักเสบ) อีพีเอ (EPA) จากโอเมก้า 3 (Omega 3)
มีผลในการลดการอักเสบที่เกิดจากสารก่ออักเสบในร่างกาย ซึ่งจะพบมากในผู้ป่วยที่เป็นโรครูมาตอยด์

น้ำมันปลา (Fish Oil) คืออะไร ? น้ำมันปลา คือน้ำมันที่สกัดจาก เนื้อ หัว หาง
และหนังของปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคคอเรล ปลาทูน่า เป็นต้น
น้ำมันปลายังเป็นแหล่งของกรดไขมันจำเป็นไม่อิ่มตัวที่ ไอคิวท์ แซลมอน รกvปลา
เรียกว่า โอเมก้า 3 (Omega 3 ) ประกอบไปด้วย อีพีเอ (EPA)
และ ดีแอชเอ (DHA) ซึ่ง มีประโยชน์ต่อระบบหลอดเลือดหัวใจ บำรุงสมองและสายตา

ต่างจากน้ำมันตับปลา (Cod Liver Oil) อย่างไร ?
น้ำมันตับปลา เป็นน้ำมันที่ได้จากตับปลาทะเล เป็นแหล่งที่ให้วิตามินเอ
iCute Salmon Placenta ช่วยบำรุงผิวพรรณ และวิตามินดี ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูก
หากรับประทานมากเกินขนาด อาจเกิดพิษจากการสะสมของวิตามินเอ
และวิตามินดีซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในร่างกายส่วนที่เป็นไขมัน

น้ำมันปลา
1. สกัดได้จากเนื้อ หัว หางและของปลาทะเล
2. เป็นแหล่งที่ให้กรดไขมันจำเป็น โอเมก้า 3
3. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไขมันในเลือดสูง

[pre]น้ำมันตับปลา
1. สกัดจากตับปลาทะเล
2. เป็นแหล่งที่ให้วิตามินเอและดี iCute Salmon Placenta
3. บำรุงร่างกายทั่วไป[/pre]