- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 1-9-2015
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 14-10-2015
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 10
- เครดิต
- 12
- สำคัญ
- 0
- โพสต์
- 2
|
ในครั้งก่อนได้บอกวิธีการดูแล้วของสะสมไปแล้ววันนี้มาดูเรื่องของการดูแลรถกันบ้างนะครับรถที่ผ่านการเคลือบแก้ว ของจริง จะปรากฏผลดังนี้คือ เกิดชั้นฟิล์ม คุ้มกันผิวสีรถ สิ่งสกปรกไม่ฝังลึก แล้วล้างคราบเปรอะเปื้อนออกอย่างง่ายมาก เวลาล้างรถ รถที่ผ่านการเคลือบแก้ว จะรีดน้ำ
เป็นแผ่น เคลือบแก้วปัจจุบันมีหลายเกรด แต่ที่นิยมมี 2 รุ่นคือ เคลือบแก้วรุ่น 7H
สามารถทำเองได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องเข้าศูนย์บริการ เคลือบแก้วรุ่น 9H หรือเรียกว่า เซรามิคโค้ท จะมีความแข็ง
แรงมากกว่ารุ่น7H
เคลือบแก้ว รุ่น 9H น้ำยาจะแห้งไวกว่า รุ่นนี้ต้องใช้ความชำนาญในการเคลือบมากกว่าเคลือบแก้วรุ่น 7H อย่างไรก็ตาม
การเลือกซื้อเคลือบแก้วต้องจงระวังของปลอมให้มาก บางยี่ห้อใช้แว็กซ์มาละลายน้ำมัน แล้วขายเป็น
เคลือบแก้ว ดังนั้นการเลือกซื้อเคลือบแก้วต้องศึกษาด้วยว่า บริษัทนั้นๆน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด ใครมีประสบการณ์เคลือบ
แก้ว แชร์กันได้ครับ ใครที่วางแผนจะซื้อรถใหม่และต้องการเคลือบแก้ว ควรเคลือบก่อนตอนซื้อใหม่ เนื่องจากรถยังไม่มี
รอยขูดขีด มิเช่นนั้น ถ้าเคลือบหลังรถรอยขูดขีด ต้องเสียเวลา ลบรอยขีดก่อน ทำให้หมด
เปลืองค่าใช้จ่าย และเสียเวลา ดังนั้น จึงควรเลือกน้ำยาเคลือบแก้วไปพร้อมๆกับการเลือกรุ่น
รถ เป็นการวางแผนอย่างเฉียบแหลม นั่นเอง
รถเก่าก็สามารถเคลือบแก้วได้ แต่ต้องเก็บรอยขีดข่วน เก็บสีให้เรียบร้อยก่อน จึงจะได้ผล
ประโยชน์ และหลังเคลือบ ก็ต้องดูแลรักษารักษาโดยใช้
แชมพูที่เป็นกลาง ไม่เป็นกรด หรือด่าง รวมถึงต้องไม่ใช้ยาขัดสีที่มีผงขัดเนื่องจาก ผงขัดสามารถขัดฟิล์มให้หลุดร่อนได้
การดูแลรักษารถหลังทำก็สะดวกมาก ถ้าสกปรกน้อย ก็ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หมาดๆเช็ดทำความ
สะอาด แล้วตามด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์แห้งอีกครั้ง เท่านี้รถก็เอี่ยมเสมอ กรณีที่
รถมัวหมองมากจำเป็นต้องล้างรถ ควรเลือกใช้แชมพูที่มีค่าpH เป็นกลางคือ7 จะ
ช่วยรักษาฟิล์มแก้วที่เคลือบไว้ให้คงทนถาวรยาวนานขึ้น
และเมื่อเวลาผ่านไปทุกๆ 4-6 เดือนควรใช้ Reload มาเติมชั้นฟิล์มแก้ว ให้กลับสภาพเหมือนการเคลือบใหม่ จะได้รถ
ที่มีฟิล์มแก้วสวยเงางามอยู่เสมอ ตราบเท่าที่ฟิล์มแก้วไม่มีรอยแตกหรือกะเทาะ ก็ไม่จำเป็นต้องไปเคลือบใหม่
ใหม่เสียงบประมาณ ศูนย์บริการรับทำเคลือบแก้วปัจจุบันมีหลายเกรด ต้องเลือกดู
และหาข้อมูลเกี่ยวกับน้ำยาที่แต่ละศูนย์ใช้ ซึ่งมีหลายเกรด และการรับประกันก็แตกต่างต่างกันไป ราคาก็มีตั้งแต่ 5000 บาท
จนถึง 50,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ Package การดูแลหลังการให้บริการเป็นสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเราสามารถทำ
ได้เอง ทั้งเคลือบทั้งดูแลหลังเคลือบถ้ารู้เคล็ดลับแล้ว ไม่ยากเลยและยังถนอมงบ
ประมาณเอาไว้เติมน้ำมันได้อีกหลายเดือนหรือเป็นปี ขอบอก |
|