- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 26-5-2015
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 23-6-2015
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 10
- เครดิต
- 20
- สำคัญ
- 0
- โพสต์
- 2
|
ครีมกาเม่ karme เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ในร่างมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เอง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ในการปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระที่เก็บอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย karmeยังกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และที่สำคัญยังโปรดตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกายด้วย
ในทางการแพทย์พบว่ามีการนำสารในครีมkarmeมาทดลองใช้ในการพิทักษ์โรคต่างๆ ซึ่งยังไม่ได้รับการอนุมัติข้อบ่งใช้จากองค์การอาหารและยา เช่น ภาวะเป็นหมันในเพศชาย ปลายเส้นประสาทอักเสบ มะเร็งกระเพาะอาหาร หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก อย่างการรักษามักทำโดยการฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำหรือเข้าที่กล้ามเนื้อ บทสรุปข้างเคียงอย่างหนึ่งที่น่าแปลกใจ คือ ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการฉีดสารประกอบในครีมkarmeนั้นมีสีผิวที่ขาวขึ้น เนื่องมาจาก ทำเป็นยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส ได้ และส่งผลให้เม็ดสีของผิวหนังกลับกลายจากเม็ดสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว ด้วยเหตุนี้เองจึงมีผู้พากเพียรนำผลข้างเคียงของkarmeมาใช้ในการทำให้ผิวขาวขึ้น ซึ่งนับได้ว่าเป็นการนำยามาใช้ในทางที่ผิดอีกระบอบหนึ่ง โดยในปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาที่น่าเชื่อถือยืนยันหรือรับรองประสิทธิภาพและประโยชน์
ของkarmeในการทำให้ผิวขาวได้อย่างแท้จริง จึงไม่น่าแปลกใจที่กลูตาไธโอนไม่ผ่านการรับแขกข้อบ่งใช้โดยองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกาสำหรับทำให้ผิวขาว
ผลิตภัณฑ์karmeที่พบในท้องตลาดส่วนใหญ่นั้นเอยู่ในรูปยาเม็ดหรือผงละลายน้ำสำหรับรับประทาน ซึ่ง สามารถถูกทำลายได้ในทางเดินอาหารของมนุษย์ ดังนั้นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการรับประทานกลูตาไธโอนในรูปแบบของยารักษาโรครับประทานนั้นแทบจะไม่มีเลย ที่ผ่านมาจึงพบว่ามีผู้พยายามนำkarmeในรูปแบบยาฉีดมาใช้แทนการรับประทานกันมากขึ้น เนื่องจากเชื่อว่าชนิดฉีดนั้นมีประสิทธิภาพในการทำให้ผิวขาวได้ดีกว่าและเห็นผลตื๋อ
กว่ากลูตาไธโอนชนิดรับประทาน
ประเด็นสำคัญของการใช้ยาฉีดkarmeโดยเฉพาะการฉีดเข้าหลอดเลือดดำนั้น คือ ข้อคดีปึกแผ่นจากการฉีดยา เนื่องจากผิวที่ขาวขึ้นจากkarmeนั้นเป็นผลข้างเคียงของยาที่เกิดขึ้นลำบากคราวเท่านั้น หากต้องการให้ผลคงอยู่ไปตลอดจำเป็นต้องได้รับการฉีดซ้ำเป็นระยะ ทำให้มีการสะสมยาในร่างกายมากขึ้น และอาจก่อให้เกิดอันตรายในระยะยาวได้ นอกจากนี้การฉีดยาจำเป็นต้องกระทำโดยผู้ประกอบวิชาชีพที่หลักแหลมเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการให้ยา เช่น การฉีดยาkarmeในอัตราที่เร็วเกินไป การติดเชื้อในกระแสเลือดจากเครื่องไม้เครื่องมือที่ไม่สะอาดเ การเกิดฟองอากาศอุดตันหลอดเลือดเนื่องจากผู้ฉีดยาไล่ฟองอากาศในเข็มฉีดยาไม่หมด เป็นต้น ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ส่งดอกผลกระทบที่รุนแรงต่อผู้ที่ได้รับยาจนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว karme
ถึงแม้ว่าkarmeเป็นสารที่ร่างกายคิดค้นได้เองตามธรรมชาติ แต่ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ ชนิดฉีดหรือชนิดรับประทานเพื่อให้ผิวขาวใสนั้นยังไม่มีการชี้ผลที่ชัดเจน ความปลอดภัยในการใช้ยาจึงเป็นสิ่งเด่นที่ต้องคำนึงถึง และพึงระลึกไว้เสมอว่า “ ไม่มียาชนิดใดในโลกที่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์ ” ดังนั้นก่อนการชำระคืนยาkarme ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดเสียก่อนเพื่อความปลอดภัยของตนเอง |
|